สุดยอดกัปตันตลอดกาลของลิเวอร์พูล สตีเวน เจอร์ราร์ด
เจอร์ราร์ดคือนักเตะที่เกิดมาด้วยเลือกสเกาซ์เซอร์ 100% เขาก้าวตามความฝันจนได้กลายเป็นกัปตันทีมของทีมที่เขารักได้สำเร็จ นี่คือนักเตะที่สร้างปาฏิหารย์ในสนามฟุตบอลมาแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลย และแม้ว่าเขาจะเคยทำพลาดครั้งใหญ่ในสนามจนแฟนบอลทีมอื่นตามต่อว่าเค้าเหมือนเป็นตัวตลกว่า “ไอ้ลื่น” แต่เค้าก็ยังคงเป็นคนที่แฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลกต่างยกย่องและรักสุดหัวใจ และนี่คือเรื่องราวของ Steven Gerrard
ปี 2000 เป็นปีที่เค้าแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ในปีนั้นเจอร์ราร์ดทำผลงานได้ดีกับทีมชาติอังกฤษชุด U21 พวกกับการที่เขาเล่นได้หลายตำแหน่ง ก็เลยทำให้เควิน คีแกน กุนซือทีมชาติอังกฤษเรียกเขาติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึก EURO 2000 และในเกมที่อังกฤษต้องพบกับโคตรทีมอย่างเยอรมันนั่นเอง หลังจากที่อังกฤษนำอยู่ 1-0 เจอร์ราร์ดที่ติดทีมชาติมาในฐานะดาวรุ่งก็ถูกส่งลงสนามมาเป็นตัวสำรองเพื่อมาคอยหยุดเกมรุกที่ร้อนแรงของเยอรมัน ซึ่งเจอร์ราร์ดก็ทำผลงานได้ดีมากๆ เข้าสกัดอย่างดุดันจนทำให้หลังเกมสื่ออังกฤษพูดถึงเค้ากันหมดเลย
ตามมาด้วยความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดอย่างลิเวอร์พูลในฤดูกาลนั้น ที่ปีนั้นพวกเขาสามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์บอลถ้วยได้สำเร็จ ประกอบด้วย แชมป์ FA Cup แชมป์ลีกคัพ และปิดท้ายด้วยแชมป์ยูฟ่าคัพ ที่ในรอบชิงชนะเลิศเจอร์ราร์ดยิงได้อีก 1 ประตู แม้ว่าในปีนั้นนักเตะอย่าง ไมเคิล โอเวน จะถือเป็นพระเอกของทีมจนทะยานไปคว้ารางวัลสุดยอดอย่างบาลงดอร์ แต่สตีเวน เจอร์ราร์ดก็แจ้งเกิดได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยเจ้าตัวคว้ารางวัลยอดเยี่ยมประจำปีของ PFA มาครองได้สำเร็จ และนอกขากนั้นเจ้าตัวยังได้รับสัญญาใหม่กับรายได้ที่พุ่งพรวดมาถึง 50000 ปอนด์/สัปดาห์ แน่นอนว่ามันทำให้ชีวิจของเขาเปลี่ยนทันที
เจอร์ราร์ดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมแทน ซามี ฮูเปีย ซึ่งฮูเปียเองก็ยอมรับว่าเจอร์ราร์ดเหมาะสมกับปลอกแขนกัปตันทีมอันนี้
ในปี 2004 เจอร์ราร์ดมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีมไปเชลซี ด้ายข้อเสนอที่เย้ายวนจากสิงห์บลูและความเปลี่ยนแปลงภายในมากมายของลิเวอร์พูล เจอร์ราร์ดยอมรับว่าตัวของเขาเองลังใจและอยากจะย้ายไปเชลซีไม่น้อย เขาเวลาในการตัดสินใจเป็นเดือนว่าจะย้ายหรือไม่ แต่ก็มีพ่อและพี่ชายของเขาที่ขอร้องไม่ให้เขาย้ายออกจากลิเวอร์พูล ซึ่งเจอร์ราร์ดได้เขียนเรื่องนี้ลงในหนังสือของเขาว่าหลังจากที่ฟังคนในครอบครัวและเสียงของตัวเองแล้ว คำตอบที่ได้ก็คือ “ผมไม่สามารถทิ้งสโมสรไปได้ รากเหง้าของผมมันฝังอยู่ในลิเวอร์พูลเกินกว่าจะถอนออกไปแล้ว” และนั่นก็คือการตัดสินใจที่ถูกจริงๆ เพราะในฤดูกาล 2004-2005 เจอร์ราร์ดพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 ได้สำเร็จด้วยการพลิกกลับมาชนะเอซีมิลาน